ถั่วพู ( ตอนที่ 1 )

ถั่วพู มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Psophocarpus tetragonolobus (Linn) DC

มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ ปาปัวนิวกีนี ถั่วพูเป็นพืชตระกูลถั่วที่ปลูกง่ายและสามารถออกดอก ออกผลได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังสามารถปลูกได้แทบทุกพื้นที่ที่ไม่มีน้ำท่วมขัง


ถั่วพู

การเพาะเมล็ด

นำเมล็ดถั่วพูมาแช่น้ำอุ่นไว้ เป็นเวลา 1 คืน แล้วนำมาเพาะลงในถุงหรือกระบะเพาะชำ ใส่เมล็ดถั่วพูลงไปประมาณ 2-3 เมล็ด หลังจากนั้นประมาณ 15 วัน ต้นกล้าก็จะเริ่มงอกและแตกใบอ่อนออกมา 3 ใบ ทำการย้ายไปปลูกในหลุมที่ขุดไว้ โดยใช้ระยะห่างระหว่างหลุม ประมาณ 5-6 เมตร


วิธีปลูก

ทำการรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกประมาณ 1 กำมือ แล้วนำต้นกล้าของถั่วพู จำนวน 2 ต้น มาปลูกลงในแต่ละหลุม รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หลังจากนั้นประมาณ 15 วัน ถั่วพูก็จะเริ่มโตขึ้นและแตกยอดอ่อนเนื่องจากถั่วพูเป็นไม้เลื้อย ดังนั้นผู้ปลูกต้องทำค้างไว้เพื่อให้ถั่วพูเกาะ


การใส่ปุ๋ย

หลังจากย้ายต้นกล้าของถั่วพูเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ถั่วพูจะเริ่มแทงช่อดอก ให้ผู้ปลูกใส่ปุ๋ย สูตร 8-24-24 เพื่อเร่งการออกดอก และทำการใส่ปุ๋ยทุกๆ 15 วัน หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนก็จะเก็บฝักถั่วได้ตลอดระยะเวลา 6-12 เดือน โดยถั่วพู 1 ต้น จะให้ผลผลิตประมาณ 300-500 กรัมต่อวัน ถั่วพูมีราคาขายในท้องตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท


คุณค่าทางโภชนาการ

การรับประทานถั่วพูทำให้ร่างกายได้รับกากใย (fiber) จำนวนมากส่งผลให้ระบบขับถ่ายเป็นไปตามปกติและไม่เกิดอาการท้องผูก นอกจากนี้ ในถั่วพู หนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 19 กิโลแคลอรี มีน้ำ 93.8 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 2.4 กรัม, โปรตีน 2.1 กรัม, ไขมัน 0.1 กรัม, เส้นใย 1.2 กรัม, แคลเซียม 5 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 43 มิลลิกรัม, เหล็ก 0.5 มิลลิกรัม, ไนอะซิน 0.8 มิลลิกรัม, วิตามินบี1 0.35 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 0.14 มิลลิกรัม และวิตามินซี 32 มิลลิกรัม


สรรพคุณทางยา

ถั่วพูมีสรรพคุณทางยาดังนี้ หัวถั่วพูใช้บำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้กาฬ แก้โรคลมพิษกำเริบ ในตำรายาโบราณมีการนำเมล็ดถั่วพูมาต้มรับประทานหรือนำเมล็ดที่ต้มสุกแล้วมาบดให้ละเอียดผสมกับน้ำสุก ใช้ดื่มก่อนอาหาร 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและเพิ่มกำลังวังชา


การนำถั่วพูมาประกอบอาหาร

ใช้ฝักอ่อนรับประทานเป็นผักกินสด หรือนำมาลวกแล้วราดด้วยน้ำกะทิ รับประทานกับน้ำพริก นอกจากนี้ยังใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร ยำ ลาบ ผัดกับน้ำมัน หรือนำมาผสมลงในทอดมันหรือใส่ในแกงเผ็ด


วิธีทำ

  1. ลวกหมูสับและกุ้งสดพอสุก ตักขึ้นพักไว้
  2. ล้างถั่วพูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปแช่น้ำเกลือละลายเจือจาง (ถั่วพูจะไม่ดำ) จากนั้นต้มน้ำให้เดือดจัดและนำถั่วพูมาลวก และนำมาแช่ในน้ำเย็น ตักผักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
  3. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำมะนาวและน้ำปลา ให้เข้ากัน ใส่หมูและกุ้งที่ลวกไว้แล้วคลุกให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่ถั่วพู หอมแดง หอมเจียว กระเทียม เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ และปลาหมึกทอดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วตักใส่จาน โรยด้วย หอมเจียว กระเทียมเจียว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ พริกแห้งทอด แซมด้วยไข่ต้มยางมะตูม



ร่วมแสดงความคิดเห็น