จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดื่มกาแฟตอนท้องว่าง (แทนอาหารเช้า) ?

กาแฟ (coffee) เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และได้เข้ามามีบทบาทหรือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน นั่นเป็นเพราะว่า หลังจากดื่มกาแฟแล้ว จะทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และช่วยทำให้หายง่วงซึมในขณะที่เรียนหรือทำงาน พลายคนอาจทานกาแฟแทนอาหารเช้า หรือขณะที่ตอนท้องว่าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบดังนี้

  1. กรดในกระเพาะอาหาร
    กระเพาะอาหารของคนเราจะมีกรดไฮโดรคลอริกอยู่ ซึ่งมันจะอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับร่างกาย พร้อมที่จะย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อท้องของเราว่างเปล่า เจ้ากรดตัวนี้ก็จะไม่มีอะไรให้ย่อย และเริ่มเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ กระเพาะ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายท้อง การดื่มกาแฟเข้าไปตอนท้องว่าง ๆ นี้ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มการหลั่งกรดมากขึ้น เมื่อมีกรดมากเกินไป ระบบทางเดินอาหารและกระเพาะอาหารก็จะเสียหาย นำไปสู่การเป็นกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้แปรปรวนนั่น
  2. ทำให้วิตกกังวล
    แค่เราไม่ได้ทานอาหารตอนเช้าและปล่อยให้ท้องว่างอยู่อย่างนั้น ก็เป็นการลดความสามารถของสมองในการหลั่งสารเซโรโทนินแล้วล่ะค่ะ สารตัวนี้จะช่วยควบคุมอารมณ์ของเราให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบ ดังนั้นเมื่อขาดมันไป ก็จะทำให้เราเกิดความวิตกกังวลและซึมเศร้า ถ้าเราดื่มกาแฟเข้าไป มันจะยิ่งไปเพิ่มสารคอร์ติซอล ส่งผลให้ความเครียดและระดับความตื่นเต้นในร่างกายเราสูงขึ้น ทีนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่เลยล่ะ ทั้งเครียด กังวล กระวนกระวายใจ 
  3. ขาดน้ำ
    การดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง จะเพิ่มปริมาณของของเหลวในร่างกายเรา และสามารถส่งผลให้เกิดการคายน้ำออกมาจากร่างกายได้ เวลาที่ร่างกายเราขาดน้ำ บางคนก็คงจะรู้กันใช่มั้ยคะ ว่ามันจะส่งผลเสียแค่ไหน ทั้งทำให้ผิวแห้ง ปากแห้ง ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดหัว บางทีเวลาที่ทำงานแล้วรู้สึกเหนื่อย ๆ ก็อาจจะมาจากสาเหตุนี้
  4. ไม่อยากอาหาร
    หลาย ๆ คนเลือกที่จะดื่มกาแฟก่อนเป็นอย่างแรก และก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยหาอะไรทานเพิ่มรองท้อง แต่เชื่อเถอะว่าแทบไม่มีใครทานอะไรต่อจากนั้น นั่นก็เพราะดันอิ่มไปซะแล้ว นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กาแฟสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ดูจะผิดจุดอยู่ดีค่ะ เพราะอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดที่ไม่ควรอด และในระยะยาวเมื่อคุณทำแบบนี้บ่อย ๆ รับรองว่าแทนที่น้ำหนักจะลด จะยิ่งเพิ่มขึ้นซะมากกว่า ทางที่ดีควรทานกาแฟระหว่าง 10 โมง


แหล่งที่มา

magazine.orami.co.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น